การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เห็นเนื้อแท้ของคนดีนักเชียว โดยเฉพาะบุคคลชั้นแนวหน้าของโลก ในขณะที่ผู้นำหลายประเทศแอ่นอกรับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่ และพร้อมเสียสละตัวเองเพื่อประชาชน ยังมีผู้นำบางประเทศที่โคตรเห็นแก่ตัว โยนความผิดไปทั่วเพื่อปัดสวะให้พ้นตัว โดยหนึ่งในนั้นมิใช่ใครอื่น นอกจาก “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา” ช่างกล้าจริงๆออกมาขู่ระงับเงินช่วยเหลือทุกอย่างที่ให้องค์การอนามัยโลก เพราะเจ็บใจที่ WHO คัดค้านคำสั่งแบนคนจีนไม่ให้เข้าอเมริกาตั้งแต่เริ่มวิกฤติใหม่ๆ ส่งผลให้โควิด-19 แพร่ระบาดหนักไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว จนขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 600,000 ราย และมีคนตายมากกว่า 25,000 คน
ด้าน รัฐมนตรีคลังอังกฤษ “ริชี สุนัก” ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า รัฐบาลไม่สามารถปกป้องประชาชนทุกครัวเรือนและธุรกิจทุกอย่างจากวิกฤติโควิด-19 โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไตรมาสนี้ (เมษายน-มิถุนายน) อาจหดตัวลงถึง 35% และจะมีคนตกงานมากกว่า 2 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้โอกาสที่จะยกเลิกการล็อกดาวน์ในเร็วๆนี้เป็นไปได้ยากเต็มที ขณะที่สำนักงบประมาณอังกฤษเตือนเศรษฐกิจแดนผู้ดีอาจถดถอยที่สุดในรอบ 300 ปี เพราะพิษโควิด
พูดถึงอังกฤษก็ปั่นป่วนโกลาหลไม่แพ้อเมริกา เซเลบริตี้คนดังที่หนีไวรัสจากลอนดอนไปอยู่ชนบทถูกไล่ตะเพิดกลับเมืองหลวงอย่างไม่ไยดี เพราะชาวบ้านกลัวมาแพร่เชื้อไวรัสให้พวกเขา โดนกันทั่วหน้าตั้งแต่เซเลบริตี้เชฟปากจัด “กอร์ดอน แรมซีย์” ที่ถูกชาวบ้านไล่ให้ออกจากเมืองคอร์นวอลล์ หลังเชฟคนดังขนลูกเมียโขยงใหญ่ไปตากอากาศที่บ้านพักริมทะเล แถมโพสต์โชว์ออกโซเชียลว่าแสนจะแฮปปี้ ขณะที่คู่สามีภรรยาสุดเฟี้ยว “เดวิด เบคแฮม” และ “วิกตอเรีย เบคแฮม” ก็กลายเป็นเหยื่อโดนชุมชนแอนตี้รุนแรง เพราะดันหนีจากศูนย์กลางการแพร่เชื้อ ไปล็อกดาวน์สบายอารมณ์ที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวในหมู่บ้านคอทส์โวลส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ชาวบ้านด่ายับว่าเห็นแก่ตัวสุดๆ ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม
แม้แต่นักร้องสาวอย่าง “ริตา โอรา” ก็โดนสังคมรังเกียจไปด้วย หลังออกมาโพสต์หราว่าหนีมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในฟาร์มชนบทชานเมืองลอนดอน โดยมีทีมงาน 5 คนตามติดมาด้วย เพื่อเตรียมงานออกอัลบั้มชุดใหม่ แถมปล่อยโดรนขึ้นเก็บภาพลัลลาไปทั่ว ไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคลของชาวบ้านชาวช่อง ช่างเป็นการล็อกดาวน์ที่เห็นแก่ตัวสุดๆ คงหักลบกลบหนี้ไม่ได้กับการเป็นอาสาสมัครของสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อช่วยขนส่งยาที่จำเป็นแก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ
บอกเลยว่า ถ้ายังรักสบายและเห็นแก่ตัวกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ คำเตือนล่าสุดของ “วิทยาลัยสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด” ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ “Science Journal” ไม่แคล้วเป็นจริงแน่ๆ เราอาจต้องใช้มาตรการ “โซเชียล ดิสแทนซิ่ง” เว้นระยะห่างทางสังคม ไปจนถึงปี 2022 เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะขืนยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเร็วเกินไป รับรองว่าไวรัสร้ายจะกลับมาระบาดหนักอีกรอบแน่ๆ ซึ่งคราวนี้จะรุนแรงยิ่งกว่ารอบแรกชัวร์ โดยเฉพาะในอเมริกา ที่ประกาศใช้มาตรการ “โซเชียล ดิสแทนซิ่ง” จนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทีมวิจัยทางการแพทย์ของฮาร์วาร์ดเตือนอย่าเพิ่งรีบยกเลิกเด็ดขาดจนกว่าจะคิดค้นวัคซีนสำเร็จ เพราะธรรมชาติของโควิด-19 คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ คือมีฤดูกาลเป็นปัจจัยกระตุ้นให้แพร่ระบาดเพิ่ม...ไม่อยากคิดให้สยองเลย ปีนี้เป็นปีชงของทั้งโลกจริงๆ IMF เพิ่งเตือนเศรษฐกิจโลกจะพัง และถดถอยหนักสุดในรอบเกือบ 100 ปี!!
ที่มา : THAIRATH
BY : ขนุน
สนใจแพคเกจท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบินทั่วโลก หรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-2945598, 092-294 5598
หรือ คลิ๊ก https://www.itravelroom.com/